NC Chapter.11 สถานะ #รักนี้บน



            ขอเรียกว่ายั่วตาใสละกัน
                หมับ
                ฮึบผมก็จัดการอุ้มเจ้าตัวขึ้นจากโซฟา ก้าวเร็วๆ เข้าห้องของจินยอง และวางจินยองไว้ที่เตียงดังเดิม
                “...” จินยองเงียบ คราวนี้ไม่มีเสียงอะไรเอ่ยออกจากริมฝีปากอิ่มฉ่ำ
                ถึงจะหาอะไรมาต่อรองหรือแลกเปลี่ยน ยังไงวันนี้ก็ไม่มีทางรอดหรอก
                ผมคงจะมองจินยองนานไปหน่อย เด็กใต้ร่างจึงพูดขึ้นมาเสียงสั่น
                “ผม...ผมต้องทำยังไง...อึก
                จุ๊บ!
                จินยองยังไม่ทันจะพูดจบผมก็ก้มลงไปจูบที่ริมฝีปากของจินยองเร็วๆ จนเกิดเสียงดังจุ๊บ
                จูบ...จูบฉันผมพูดเสียงแหบพร่าข้างใบหูเล็ก
                แบบที่จินยองก็หันมามองผมอย่างขลาดเขิน หลายวินาทีที่ดวงตาวาวใสมองผม จนกระทั่งจินยองขยับเคลื่อนใบหน้าขึ้นมา
                ผมรู้สึกถึงริมฝีปากนุ่มๆ แตะบนปากของผมสั่นๆ แบบที่ผมก็กระตุกยิ้มมุมปากเพียงนิดแล้วจัดการจับมือเล็กทั้งสองข้างคล้องคอไว้ แล้วเป็นฝ่ายรุกเด็กที่จูบไม่เป็น ผมบดคลึงปากของตัวเองลงไปหนักๆ จับโอบรอบเอวบางๆ ไว้ ทั้งกลืนกินทั้งแทะเล็มริมฝีปากนุ่มหยุ่นอย่างไม่รู้จักพอ ส่งลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากหวาน กลืนกินทุกซอกทุกมุมอย่างที่ใจโหยหา และมือมันก็ไปตามสัญชาตญาณ ค่อยๆ ส่งมือเข้าไปในเสื้อตัวบางๆ สัมผัสหน้าท้องแบนราบเรียบลื่น
                ผมเอียงองศาใบหน้าหามุมในการตะโบมจูบเด็กน้อยที่เริ่มสั่นระริก มือค่อยๆ เลิกเสื้อตัวบางขึ้นจนถึงแผ่นอกของจินยอง
            อยากจะรู้จริงๆ ว่าจินยองแม่งกินข้าวหรือโอโม่เป็นอาหาร ทำไมทันถึงได้ขาวไปทั้งตัวงี้วะ!
                แค่เพียงผละออกมาดูผมก็ต้องคิดอย่างนี้ในหัวจริงๆ ไม่เข้าใจเลย ทำไมเด็กผู้ชายสมัยนี้ถึงได้บอบบาง ขาวแล้วก็นุ่มนิ่มไปทั้งตัวอย่างนี้ ไหนจะใบหน้าน่ารักที่ตอนนี้ดวงตาฉ่ำเยิ้ม พวงแก้มขาวขึ้นสีระเรื่อไปหมด ริมฝีปากอิ่มที่บวมแดงผ่านการบดขยี้อย่างหนักหน่วงจากผม ภาพเหล่านี้ยิ่งทำให้อะไรบางอย่างในร่างกายผมปะทุขึ้นมาเรื่อยๆ
                ผมมองกางเกงตัวจิ๋วที่ตอนนี้มันดูเกะกะสิ้นดี อยากจะทึ้งกระชากออกแรงๆ ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
                ถอดกางเกงให้ฉันเร็วผมพูดกับเด็กน้อยที่ตัวสั่นเหมือนกำลังกลัวอยู่
                จินยองทำตามอย่างว่าง่าย ขยับตัวลุกขึ้นมาแล้วยื่นมือเล็กๆ มาจับที่ขอบกางเกงของผม ภาพที่ผมก็อยากจะหลุดหัวเราะออกมาสิให้ตาย
                ก็ตอนนี้เด็กตรงหน้าหันหน้าไปอีกทาง หน้าแดงหูแดงไปหมด ยิ่งตอนที่เห็นว่ากลางกายภายใต้กางเกงผ้านิ่มของผมมันกำลังดุนดันเนื้อผ้าเหมือนจะทะลุออกจากกางเกงให้ได้ ดวงตากลมโตก็หลับตาปี๋แล้วจึงค่อยๆ ดึงขอบกางเกงผมลงช้าๆ แต่มันช้าเกินไปจนผมก็อดทนไม่ไหว
                ฟึ่บ
                หมับ!
                “ฮึก!” จินยองสะดุ้งเมื่อผมจับมือเล็กที่กำลังดึงกางเกงผมลงให้ดึงลงเร็วๆ แล้วจับมือข้างหนึ่งให้มาจับส่วนกลางกายของผมเอง
                หึผมหัวเราะในลำคอ ยามที่มองใบหน้าใสที่แดงฉ่าไปหมด จินยองแทบจะไม่กล้าแตะมันเลยด้วยซ้ำ ทั้งยังขัดขืนจะดึงมืออกแต่ผมก็กดมือจินยองให้จับส่วนที่แข็งขืนเอาไว้ ไหนบอกว่าจะช่วยฉันไง ทำสิ
                “อึก...ผม ผม ฮึกจินยองพูดออกมาตะกุกตะกัก ทั้งยังสะอื้น ภาพที่ดูแล้วก็น่าสงสาร แต่ตอนนี้ผมไม่ไหวแล้วว่ะ
                ฟึ่บ
                ฮึก คุณแจบอม...ผมกลัวเด็กน้อยว่าเสียงสั่นระริกยามที่ผมจับให้นอนหงายตามเดิมและตามขึ้นไปคร่อมไว้ มือก็ดึงกางเกงผ้านิ่มตัวจิ๋วนี่ลงจนเผยขาอ่อนขาวเนียนและชั้นในสีขาว
                ไม่ต้องกลัว มันไม่น่ากลัวหรอกผมเป็นคนปลอบใครไม่ค่อยเป็นหรอก พอพูดแค่นั้นก็จับเรียวขาขาวให้แยกออกแล้วโน้มตัวลงไป ฝังจมูกคลอเคลียที่ซอกขานิ่ม ดูดดึงแรงๆ จนเกิดรอยไปหมดตามขาอ่อน จินยองพยายามหุบขาเข้าหากันทว่ามันก็ไม่เป็นผล ไหนเจ้าตัวจะพยายามดึงชายเสื้อมาปิดต้นขาของตัวเองไว้อีก แต่บอกเลย พยายามยังไงมันก็ไม่ได้ผลหรอก มาถึงขนาดนี้แล้ว ก็เหมือนหลุดเข้ามาในถ้ำเสื้อแล้วล่ะวะ คิดหรอว่าผมจะปล่อยไปเหมือนเมื่อคืน
                ผมค่อยๆ รูดรั้งชั้นในสีขาวออกไป มองใบหน้าใสที่หลับตาอย่างเขินอาย แบบที่ผมก็ยกยิ้ม ค่อยๆ ส่งนิ้วเข้าไปในร่างกายของอีกคนช้าๆ
                ฮึก...ฮึก ผม ฮึกจินยองสะอึกสะอื้นไปหมด เหมือนจะพูดอะไรแต่คำพูดก็ขาดห้วง แบบที่ผมก็เอ่ยถาม
                เจ็บหรอเจลอยู่ในลิ้นชักหัวเตียงในห้องของผม แต่ผมขี้เกียจเสียเวลาลุกเดินไปเอามา พยายามเคลื่อนนิ้วเข้าออกเบาๆ จากการกระทำเมื่อครู่ แรงตอดรัดจากภายในทำให้ผมรู้ว่าร่างกายนี้สดใหม่ไปซะทุกอย่าง ผิวขาวนุ่มที่ใสเนียน เกิดรอยต่างๆ มากมายเพราะผม
                นิดหน่อยครับ...ฮึก แต่...แต่ถ้าหม่าม้ารู้...ฮึกจินยองพูดทั้งน้ำตา ประโยคที่ผมก็แทบจะหลุดกลั้วหัวเราะออกมา
                เด็กน้อยเอ้ย ไม่รู้หรือไงว่าผู้ใหญ่เปิดทางให้เราตั้งแต่แรก
                ม้านายไม่ว่าหรอก แต่แม่ฉันด่าแน่ๆผมพูดแล้วยกยิ้มมีเลศนัย แบบที่จินยองก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองผมที่ใบหน้าอยู่ห่างกันแค่คืบ ผมค่อยๆ เพิ่มนิ้วสอดใส่เข้าไปช้าๆ จนจินยองก็กระตุกตัวสั่นระริกตลอดเวลา
                งะ งั้นหยุดทำเถอะนะครับ ฮึก อื้อจินยองสบตากับผม ดวงตากลมโตรื้นไปด้วยน้ำตาจากแรงอารมณ์
                ผมอยากจะหัวเราะออกมาให้ตายสิ ตัวเองกำลังมีอารมณ์ร่วมอยู่แท้ๆ แต่ยังมาบอกให้หยุดเนี่ยนะ
                แม่ฉันด่าแน่ๆ...ถ้าเราไม่ทำลูกกันสักทีน่ะพูดจบก็ถอดถอนนิ้วมือออกมา ยืดตัวขึ้นเพื่อหยิบถุงยางอนามัยในกระเป๋ากางเกง ผมเห็นจินยองรีบเบือนหน้าหนีใบหน้าใสแดงก่ำ ได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นอยู่ตลอดเวลา แบบที่ผมเองก็รีบฉีกซองถุงยางแล้วสวมให้ตัวเองเร็วๆ พอทุกอย่างพร้อมผมก็จับเรียวขาขาวที่ได้แต่แอบมองมานาน จับยกขึ้นให้แนบกับเชิงกรานของผม จากนั้นก็จับเรียวแขนขาวให้คล้องคอผม ทั้งยังกระซิบข้างใบหูแดงก่ำเบาๆ
                พร้อมนะ
                สวบ
                อ๊า! ฮึก...อึก จินยองร้องออกมา คงแพราะเจ็บ ผมเลยถอนกายออกมาแล้วค่อยๆ สอดใส่เข้าไปช้าๆ พอเห็นน้ำตาหยดโตล่วงเผาะลงที่แก้มใสๆ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบออกเบาๆ
                เจ็บหรอผมเอ่ยถาม หยุดการกระทำลง จินยองไม่ได้พูดอะไรแค่พยักหน้าแรงๆ จนเส้นผมนุ่มสะบัด ผมเลยโน้มหน้าลงไปแล้วกระกบริมฝีปาก
                ผมจูบกับจินยองนานอยู่หลายนาที แลกเปลี่ยนน้ำใสกันในโพรงปาก ลิ้นเล็กๆ ของจินยองเริ่มมีการโต้ตอบบ้าง ลิ้นของผมถูไถสัมผัสกับลิ้นของเด็กน้อยจนเกิดเสียงแฉะดังไปทั่วห้องนอน มือของผมก็สัมผัสลูบไล้ผิวกายบางไปมาอย่างอยากจะปลุกเร้าอารมณ์ เลิกเสื้อตัวบางขึ้นจนถึงแผ่นอกอีกคราแล้วใช้ปลายนิ้วบดขยี้ยอดอกของจินยองแบบที่เจ้าตัวก็ครางในลำคอ แอ่นอกรับสัมผัสจากผม
                ผมค่อยๆ ขยับสะโพกเบาๆ อีกครั้งเมื่อภายในเริ่มปรับตัวได้ มือเล็กๆ เกาะที่ไหล่ผมแล้วจับไว้แน่น แต่คงไม่กล้าจะหยิกหรือขีดข่วนลงมาแม้ว่าผมจะยังใส่เสื้อก็ตาม จินยองเหมือนไม่ค่อยกล้าตอบรับผม เพราะนี่คงเป็นครั้งแรกเลยขลาดอาย
                อา...” ผมครางในลำคอต่ำๆ ยามที่ผละใบหน้าออกมา เริ่มสนใจที่ส่วนล่างที่ตอดรัดของผมแน่นไปหมด มองใบหน้าสวยหวานที่ยังมีเสียงสะอึกสะอื้นเล็ดลอดออกมา
                ทว่าจินยองกัดริมฝีปากตัวเองเหมือนพยายามกลั้นเสียงครางเอาไว้ ผมจับสะโพกอวบไว้แล้วเริ่มกระแทกกระทั้นเข้าออกแรงขึ้น
                จินยอง...” ผมเรียกชื่อของอีกฝ่าย
                อื้อ ฮึก...ครับแรงบีบที่หัวไหล่ทำให้ผมรู้ว่าจินยองกำลังมีอารมณ์ร่วม ทว่าไม่กล้าแสดงออกมา
                อืม...ถ้านายจะช่วยฉัน นายต้องครางดังๆ ให้ฉันได้ยินด้วย อา...แล้วหลังของฉันผมผละออกมาครู่เดียวเพื่อถอดเสื้อออกทางหัวแล้วโยนไปไว้ไหนก็ช่างมันเถอะ แล้วกลับมาขยับสะโพกแรงๆ แล้วกระซิบที่ริมหูแดงก่ำ หลังของฉัน...เป็นของนาย
                “ฮึก...อือ...อ๊าพอบอกให้คราง จินยองก็เลิกกัดปากตัวเองแล้วปล่อยเสียงครางออกมาตามจังหวะการกระแทกกระทั้นของผม แต่ก็เหมือนว่าจินยองจะยังอาย ไม่กล้าปล่อยเสียงน่าอายออกมา
                งั้นเรียกชื่อฉันสิ จินยอง อา...เรียกชื่อฉันผมพูดไปแล้วก็ซุกไซร้ซอกคอขาว สูดดมกลิ่นกายหอมหวานที่แดงระเรื่อขึ้นสีอย่างน่ารัก
                คุณ...คุณแจบอม ฮึก คุณแจบอมจินยองหอบหายใจรัวเร็วตามแรงอามรณ์ แบบที่ผมก็แทบจะไม่ไหวเพราะแรงตอดรัดจากผนังอ่อนนุ่มภายใน บอกให้ผมรู้ว่าจินยองใกล้จะถึงฝั่งฝันแล้ว ผมยื่นมือไปชักรูดแก่นกายเล็กแรงๆ จนเด็กน้อยก็สะดุ้งเฮือก ทั้งครางปนสะอึกสะอื้น ผมก็สอบสะโพกใส่รัวจนจินยองหัวสั่นคลอน
                อา จินยองอา...ทำไมนายต้อง...”
                ทำไมต้อง...น่าเอาขนาดนี้ด้วยวะ!
                ผมบีบก้อนเนื้อนิ่มด้านหลังสะโพกจนเต็มฝ่ามือ จับเรียวขาขาวพาดบ่าอย่างที่แต่ก่อนได้แค่คิด พอได้ทำแล้วพูดได้คำเดียวเลยว่า
            ฟินสุด!
                ยิ่งตอนที่ได้เข้าไปในความอุ่นนุ่มลึกๆ นั่นแล้วจะถึงสวรรค์ซะให้ได้
                อ๊า! ผมจะ..อื้อ จิ...นยองจะ ฮึก คะ คุณแจบอมจินยองเรียกชื่อผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เจ้าตัวจะปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาจนเลอะเปรอะเปื้อนหน้าท้องของผม แบบที่ผมก็ทั้งจับทั้งลูบเรียวขาขาวนุ่ม แล้วสอบกายเข้าออกเร็วๆ
                อืม...จินยองอาไม่กี่ทีผมก็ปลดปล่อยใส่ถุงยางอานามัย ผมยังค้างกายอยู่ในตัวของจินยอง รู้สึกหัวมันโล่งไปหมด อารมณ์ที่ไม่ได้ปลดปล่อยมานาน รวมทั้งการอดเปรี้ยวไว้กินหวานมาหลายครา มันทำให้ผมรู้สึกว่า...

                ครั้งเดียวมันไม่พอ





เนื้อหาตอนนี้ยังไม่จบ กลับไปอ่านต่อได้ที่นี่เลยค่ะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้