NC Chapter.15 #สักฝุ่นมั้ยบน



                กูไม่รู้หรอกนะว่าไอ้เชี่ยนั่นมันมีดียังไงอ่ะ แต่มึงกำลังคบกับกูอยู่ มึงจะไปทำตัวเหี้ยๆ แบบนั้นกับคนอื่นไม่ได้!”

                “ฟังก่อน อึก-- ได้มั้ยจินยอง ฉันไม่ได้ทำอะไรกับ--” แล้วผมก็โดนปิดปากอีกครั้ง คราวนี้จินยองทั้งดูดดึงและเป็นฝ่ายรุนรานเข้ามาอย่างหนักหน่วง

                ยังไงก็จะไม่ฟังกันแล้วสินะ

            แต่ไม่เป็นไรหรอก ค่อยอธิบายพรุ่งนี้เช้าก็ได้

                พอคิดได้แบบนั้น ผมจึงโอบร่างกายของอีกคนเข้าหาตัว ก่อนจะพลิกร่างของจินยองให้เป็นฝ่ายนอนลงบนเตียงนุ่ม เมื่อวงแขนของผมได้โอบรัดรอบเอวของอีกคน เสื้อเชิ้ตสีขาวของจินยองมันจึงยับย่นและค่อยๆ เลิกขึ้นเรื่อยๆ และทันทีที่ร่างกายของเราบดเบียดเข้าหากันอย่างหนักหน่วงมากขึ้น มันก็ทำให้ผมได้รู้ทันทีว่า...ส่วนล่างของจินยองนั้นไร้อาภรณ์สักชิ้น

                อึก...” ผมผละออกมาเล็กน้อย มันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นเพราะสายตาของเรายังสบกันในระยะใกล้ชิด ผมแนบหน้าผากของตัวเองลงบนส่วนเดียวกัน ลมร้อนๆ ภายในร่างกายที่ออกมาจากริมฝีปาก ปล่อยออกมาตามอัตราการหอบหายใจจนเกิดไอขึ้นมาตัดกับความเย็นของอุณหภูมิในค่ำคืนนี้

                “ขอ...ได้มั้ยผมเอ่ยปากเพียงแผ่วเบา สายตาเอาแต่จับจ้องริมฝีปากของอีกคนอย่างไม่ลดละ

                กูให้ขนาดนี้แล้ว มึงยังต้องขออีกหรอ

                แล้วจินยองก็ทำให้ผมยกยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ผมยืดตัวขึ้นไปเปิดลิ้นชักหัวเตียง ควานหาสิ่งที่ต้องใช้ออกมา ยิ่งสังเกตเห็นว่าคนบนเตียงเอาแต่มองตามผมก็ยิ่งยกยิ้มขึ้น

                กลัวมั้ยผมถามในขณะที่ค่อยๆ แยกเรียวขาขาวให้กางออก

                มึงพูดเหมือนกูเพิ่งเคยครั้งแรกงั้นอ่ะ

                “นายเคย...กับผู้ชายแล้วว่างั้นเถอะผมถามอีกคน ซึ่งจินยองก็เงียบไป พลางส่ายหน้าเบาๆ

                มึงจะเซ้าซี้ทำไมเนี่ย รีบๆ ทำเหอะผมรู้ว่าจินยองกำลังเขินอาย แม้ว่าแสงไฟภายในห้องนอนจะมีเพียงริบหรี่

                ผมค่อยๆ โน้มใบหน้าลงไปพูดใกล้ๆ หูของอีกคน

                ทำกับแฟนน่ะ เค้าไม่รีบทำกันหรอก...ยิ่งคนสำคัญ ก็ยิ่งอยากจะเก็บเกี่ยวเวลานี้ให้มากที่สุด ไม่รู้เหรอ

                ป๊อก


                ผมเปิดฝาขวดเจลหล่อลื่น แม้ว่าจะเปิดด้วยแรงปกติ แต่เสียงฝาขวดมันกลับก้องไปทั้งห้องที่เงียบเชียบ มีแต่เสียงเครื่องปรับอากาศ เสียงหายใจ และเสียงของก้อนเนื้อในอก

                “...” ผมเอาแต่จับจ้องใบหน้าของคนที่หลับตาแน่น ในตอนที่นิ้วมือที่ชุ่มไปด้วยเจลหล่อลื่นของผมกำลังริดรอนเอกราชของอีกฝ่ายไป
                ฉันจะค่อยๆ ขยับนิ้วนะผมบอกเมื่อนิ้วแรกได้เคลื่อนเข้าไปจนสุด แค่นิ้วเดียวของผมมันก็แน่นไปหมดแล้ว
                จินยองกำลังตัวสั่น
                มึงอย่าเพิ่ง--” ทั้งๆ ที่ในตอนแรก ตัวเองเป็นคนบอกให้รีบๆ ทำด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับขย้ำเสื้อที่ไหล่ของผมแน่นจนสาบเสื้อแยกออกกว้าง และมันย้วยติดมือไปจนแทบจะหลุดออกจากตัวของผม
                เจ็บเหรอ ลืมตามามองกันหน่อยพอผมพูดแบบนั้น จินยองก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา มันจะเจ็บในตอนแรก แต่เดี๋ยวมันจะดีเอง




            JINYOUNG PART

                กูเชื่อใจมึงนะ

                นั่นคือคำที่ผมพูดกับคนที่อยู่บนร่างในใจ ดวงตาคู่คมที่ฉายแต่แววความจริงใจส่งตรงมาให้ มันก็ไม่มีสิ่งอื่นอีกเลย เว้นเสียแต่ว่า--

                “-- ฮื่อ...มึง มัน--”

                นี่แค่นิ้วของมันก็เจ็บละเนี่ย

                “...” แล้วไอ้เจบีก็จูบผมอย่างปลอบประโลม ในขณะที่นิ้วก็ขยับเข้าเอาไปช้าๆ เกือบจะครึ่งนาทีได้ที่มันเพิ่มนิ้วเข้ามาเรื่อยๆ แบบที่ผมไม่ได้ตั้งตัว

                และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เริ่มรู้สึกดีกับสัมผัสนี้

                -- อึกผมรู้สึกได้เลยว่าเสียงลมหายใจของตัวเองมันติดขัดไปหมด ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมกำลังมีอารมณ์ขึ้นมาเพราะนิ้วของมันที่กำลังงุ่นง่านกับช่องทางที่ผมแทบจะไม่อยากแตะต้องด้วยซ้ำ

                จากความเจ็บปวดในตอนแรก ต้องขอยอมรับเลยว่ามันเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้เหมือนกันที่ผมรู้สึกว่า...เท่านี้มันยังไม่พอ

                โอเคหรือยัง

                “อือ-- ฮะ ฮึก

            กูอ่ะโอเค แต่เหมือนว่ามึงจะไม่โอเคแล้วนะ

                ผมคิดยามที่มองชั้นในของอีกคนที่ชื้นแฉะเป็นวงกว้าง เหมือนมันจะอยากออกมาสูดอากาศจะแย่อยู่แล้ว แต่พ่อของมันยังมีสีหน้าที่ยิ้มบางๆ ยามที่มือยังขยับให้ผมไม่หยุด

                ซึ่งนั่นจะทำให้ผมนอนเฉยๆ ไม่ได้

                อืม...” ไอ้เจบีมันส่งเสียงครางฮึมในลำคอเล็กน้อยเมื่อผมยื่นมือไปดึงชั้นในของมันลง ความแข็งขืนที่ผมเห็นแล้วก็แอบเจ็บแทน คว้ามันมาไว้ในมือก่อนจะเป็นฝ่ายนวดคลึงให้

                มึงใส่เข้ามาเถอะ

                “แต่เดี๋ยวรอให้นาย--”

                “กูพร้อมแล้ว ไม่ต้องรอแล้ว อยากได้มึงจะแย่อยู่แล้วอ่ะได้ยินมั้ย!” ในเมื่อพูดดีๆ ไม่รู้เรื่อง ผมก็เลยพูดในสิ่งที่มันค่อนข้างจะกระดากปากนิดหน่อย หวังว่ามันจะทำให้ไอ้เจบีมันหยุดความใจดีของตัวเองไว้แค่นั้นก่อน

                ซึ่งนั่นมันคงจะมากไปหน่อย เพราะทันทีที่ไอ้เจบียอมปล่อยนิ้วออก ความรู้สึกโหวงๆ โล่งๆ เข้ามาแทนที่ได้ไม่นาน ร่างของผมถูกโอบรัดจนแน่น ก่อนที่เส้นดายบางๆ ของไอ้เจบีมันจะขาดผึงลง

                ไอ้เจบีรีบผละออกมา หยิบซองถุงยางอนามัยขึ้นมาฉีกเร็วๆ แล้วรีบสวมใส่ของตัวเอง ก่อนที่มันจะตามมาคร่อมผมอีกครั้ง

                -- อึ้ก!! มันเจ็บ...” ผมร้องลั่นก่อนจะคว้าคออีกฝ่ายมากอดแน่น

                ขอโทษ จินยอง ฉันขอโทษถึงมันจะพร่ำบอกอยู่แบบนั้น แต่ไอ้ความใหญ่โตที่มือผมกุมไม่รอบก็ดันเข้ามาเรื่อยๆ ไม่หยุดสักที

                ฮะ...ทำไมมันเจ็บจังวะ

                ไม่สิ ผมต้องพูดว่า ทำไมของมันต้องใหญ่ขนาดนี้ด้วยวะ

                จะค่อยๆ ขยับนะ ถ้านายไม่ไหวก็บอกพูดยังไม่ทันจบด้วยซ้ำ มันก็เริ่มขยับจนผมต้องหาที่ยึดเหนี่ยว ซึ่งนั่นก็คือไหล่หนาๆ ของอีกคนนั่นแหละ

                ในตอนแรกมันเจ็บ...เจ็บมาก เจ็บจนแทบจะร้องไห้ออกมา แต่พอความเจ็บเสียดนั้นหมดไป ความรู้สึกดีแปลกๆ ก็เริ่มเข้ามา และพอยิ่งมันมากขึ้น ปฏิกิริยาตอบสนองของผมก็คือการแอ่นสะโพกรับแรงกระแทกที่หนักหน่วงของอีกคน

                ถ้าจะให้พูดตรงๆ เลยก็คือ...โคตรเสียวเลย

                จินยอง จูบหน่อยและผมก็ไม่ปฏิเสธเลยสักนิด

                -- มึง ตรงนั้นมัน...ฮื้อ อย่า-- ขยี้...” ผมเข้าใจแล้วว่าพวกผู้หญิงในเอวีทำไมจะต้องครางเสียงหลงกันขนาดนั้น แต่ผมก็ไม่ได้ครางถึงขนาดนั้นหรอกนะเว้ย

                ก็แค่ตอนที่ปลายนิ้วมือของมันบดลงบนยอดอก ผมก็แอ่นรับ แล้วยิ่งในตอนที่มันสอบสะโพกเข้ามาโดนจุดที่ทำให้ผมต้องสะดุ้ง มันก็เหมือนจะรู้ใจเสียจริง ยิ่งผมหอบหายใจถี่เท่าไหร่ มันก็ยิ่งสอบสะโพกและขยี้ลงมามากเท่านั้น

                คนทำเป็นมันดีอย่างนี้สินะ

                รู้สึกดีหรือเปล่า...อาไอ้คนคุมเกมผละใบหน้าออกมาจากยอดอกของผม ยิ่งเห็นสายตาของมันที่มองมาเหมือนจะแดกผมเข้าไปทั้งตัว ผมก็ได้แต่หันหน้าไปทางอื่น มัน...ไม่ดีเหรอ

                ไม่ดีเหี้ยอะไรล่ะ กูเสียวจะตายห่าแล้วเนี่ย

                มึง-- อย่าถามกูมากจะได้ อึก อ่ะ...มั้ยแค่ได้ยินเสียงผม มันก็น่าจะรู้แล้วมั้ย

                ขอโทษที่ทำให้เจ็บนะ

                เออ รู้แล้ว มึงอย่าพูดเหมือนคนรู้สึกผิดอะไรขนาดนั้นจะได้มั้ยวะ นี่แค่ท่าเบสิกของมึงก็ทำกูจะแย่อยู่แล้ว

                มึง-- อือ...-- กูจะเสร็จพอผมพูดแบบนั้น อีกฝ่ายก็ทำการปรนเปรอให้ผมด้วยฝ่ามือ บดขยี้ตรงจุด จนในที่สุด... “อะ...--”

                แต่ไอ้คนที่ขยับจนร่างของผมสั่นคลอนไปด้วยไม่มีท่าที่ว่าจะเสร็จเลยสักนิด แถมมันเหมือนจะหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ เสื้อเชิ้ตสีขาวของมันชุ่มเหงื่อไปหมด มันยังคาอยู่ที่หัวไหล่อีกฝ่ายอยู่แบบนั้น ผมจึงยื่นมือเข้าไปถอดให้

                มันยกขาของผมให้พาดไว้บนไหล่ เปลี่ยนเป็นข้างซ้ายบ้าง ข้างขวาบ้าง เปลี่ยนท่าให้เสียวเล่นจนแตกไปอีกรอบ

                แต่มันยัง...ไม่เสร็จสักรอบ

                โทษทีนะ...พอดีว่าเวลาฉันเมา...มันจะอึดกว่าปกติ

                แล้วผมก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ตัวเองได้หมดสติคาอกของอีกคนไปแล้ว



............................................................
กลับไปคอมเมนท์ได้ที่นี่ค่ะ https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1540036&chapter=16

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้